วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ศาลยี่ราฟ มจพ.

ศาลยี่ราฟ มจพ.











ผมจากบ้านมาเพราะมีคนนำตัวมาไว้กับปู่ผมที่ศาลาบำเพ็ญตบะของท่านเทพอยู่ในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ย่านบางซ่อน เพื่อให้ผมมาอยู่เป็นเพื่อนปู่ ก่อนนี้เคยได้ยินว่าปู่ผมมาช่วยดูแลที่บำเพ็ญตบะให้ท่านเทพ เมื่อมีคนนำผมมาผมดีใจมาก แต่พอมาเจอปู่่ของผมถึงกับพูดไม่ออก ปู่ผมแก่มากแล้วเนื้อตัวสีเปลี่ยนไปมาก นี่ก็แสดงว่าท่านอายุมากแล้ว น่าสงสารเหมือนกัน





ที่บำเพ็ยตบะของท่านเทพในแต่ละวันจะมีคนมากราบไหว้ท่านเทพจำนวนมาก นอกจากปู่แล้วก็มีพี่ๆ และเพื่อนๆน้องๆ มาก พวกเราอยู่กันมากและสนุกด้วย











ปู่ของผมละครับสีไม่เหมือนใคร












นอกจากพวกเราที่โตๆแล้วก็มีน้องๆที่ยังเด็กๆก็มีจำนวนมาก รุ่นน้องพวกนี้จะอยู่กันเป็นกลุ่มๆ โตขึ้นพวกเขาจะมาเล่นกับเรา บ้างไหมน้อ


ผมมาอยู่กับปู่ได้ประมาณ 4 ปี ผมสังเกตเห็นปู่ชอบเขียนหนังสือไว้ในสมุดเล่มเล็กๆอยู่บ่อยครั้ง ผมอดไม่ได้ที่จะถามว่าปู่่ทำอะไร ปู่่บอกว่าแม้ปู่จะอายุมากแล้วแต่ปู่ก็ยังชอบที่จะอ่านเขียนหนังสือไว้บ้างป้องกันการหลงลืม และยังเป็นการฝึกฝนสมองที่นับวันก็เริ่มจะเชื่องช้าคิดอ่านไม่เร็วอย่างแต่ก่อน และคนที่มากราบไหว้ท่านเทพก็มีมากขึ้นทุกวัน ปู่บอกว่าถ้าหนูว่างไม่มีอะไรทำก็ไปหยิบเอาบันทึกที่ปู่เขียนไว้มาอ่านดูก็ได้นะ เพราะการที่เราจะรู้อะไรถ้ารู้ความเป็นมา(อดีต) เอาไปบวกกับความรู้ปัจจุบัน จะทำให้หนูอ่านอนาคตออกผมดีใจมากไปหยิบบันทึกที่ห้องสมุดสำหรับเก็บบันทึกของปู่มา 1 เล่ม เก่ามากเลย แต่ไม่สกปรกเพราะที่นี่เขามีแม่บ้านคอยมาปัดฝุ่นทำความสะอาดให้ ดีจัง
ผมลองเปิดอ่านหน้าแรกเขียนว่า "ความเป็นมาของปู่" ผมดีใจมากที่จะได้รู้เสียทีว่าปู่มาจากใหน เพราะเคยถามใครๆ เขาก็พากัน ส่ายคอไปมา ในบันทึกปู่บอกว่า ปู่เกิดมาจากการเนรมิตของนายช่างหัตถกรรม ท่านหนึ่งเขาเรียกท่านว่า "นายถวิล ตาแก้ม" ท่านผู้นี้ได้ไปฝึกการสร้างปู่มาจากสำนักฝึกฝนอาชีพ ท่านผู้นี้นอกจากจะสร้างปู่แล้วยังสร้างโต๊ะม้านั่งให้นักศึกษานั่งอ่านหนังสือตามใต้ต้นไม้ ปู่เห็นพวกนักศึกษามีความสุข บางคนยังเอาหัวตัวเองวางบนโต๊ะแล้วดูเหมือนจะหลับก่อนที่ปู่จะมาอยู่กับท่านเทพ ครั้งแรกปู่เคยยืนเฝ้าอยู่ที่หน้าโบสถ์หลวงพ่อสิงห์ ข้างหน้ามาก่อน ตอนนั้นที่บำเพ็ญตบะของท่านเทพยังไม่ได้สร้างให้สวยงามเหมือนทุกวันนี้
ปู่ก็ฟังเขามาอีกทีหนึ่งว่า แต่เดิมบริเวณแถวนี้เป็นสวนของชาวบ้าน คนส่วนใหญ่จะอาศัยคลองบางเขนเดินทางไปมาหาสู่กัน เป็นหนทางที่มีการคมนาคมที่เรือแจวมากมายไม่ว่าจะเป้นการค้าขายหรือติดต่อกับญาติพี่น้องล้วนแต่อาศัยคลองนี้ออกไปสู่แม่น้ำเจ้าพระยา

ตรงบริเวณที่เขาสร้างที่บำเพ็ญตบะของท่านเทพทุกวันนี้ แต่เดิมเป็นเพียงบ้านไม้เล็กๆ(ลักษณะศาลเพียงตา) ไว้ที่ปากทางแยกของคลองที่แยกจากคลองบางเขนใหม่ไปสู่บ้านเรือนชาวบ้าน แถวนี้มีแต่ป่าแต่สวนไม่ค่อยมีบ้านคนต่อมาบริเวณนี้อาจารย์ท่านก็ขอชื้อจากชาวบ้านเพื่อสร้างที่เรียนหนังสือให้นักศึกษา แต่อาจารย์ก็ไม่ได้ทำลายที่บำเพ็ญตบะของท่านเทพและต่อมายังทำนะบำรุงอย่างดีมาจนทุกวันนี้
เมื่อท่านอาจารย์ย้ายปู่มาอยู่ที่นี่ ปู่ว้าเว่มาก ไม่คุ้นเคยกับใครแต่ท่านเทพดีมาก ปู่มีความอบอุนใจไม่คิดจะไปที่ใหนอีกแล้ว ท่านพูดกันว่าท่านที่พาปู่มาอยู่ที่นี่พบกับความสำเร็จมาก แม้แต่ท่านที่สน้งปู่ข่าวว่า มีเงินมีบ้านที่ดิน พอข่าวว่าคนที่พาปู่มาไว้ที่นี่แล้วพบแต่ความสำเร็จ จากนั้นมาก็จะมีคนพาพวกลูกหลานมาไว้กับปู่มิได้ขาด เขามาขอให้ท่านเทพให้เลขเขาบ้าง ให้เนื้อคู่เขาบ้าง ให้ลูกหลานเขาบ้าง ให้เขาสอบได้บ้าง หลายคนก็ได้นะ บางคนก็ไม่ได้ ที่ได้ก็จะพาหลานๆ มาไว้กับปู้ มีพวงมาลัย น้ำแดง แม้แต่ท่านอาจารย์ทำบุญท่านก็มาบูชาท่านเทพด้วยอาหารหวานคาว โอยๆๆๆๆๆๆ ง่วงแล้วปู่ ขอไปยืนหลับนะ


ศาลาท่าน้ำคลองบางเขนโบราณวัดมัชฌันติการาม
คลองสามแพร่งที่สร้างศาลมาแต่ดั้งเดิม







คลองบางเขนใหม่ไหลผ่านมหาวิทยาลัย
เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น