วันพฤหัสบดีที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2553

"นม” เบื้องหลังการพลัดพราก

“นม” เบื้องหลังการพลัดพราก


เจริญ แฉกพิมาย


น้ำนม หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า นม เป็นอาหารที่สำคัญที่สุดของตัวอ่อนที่เกิดจากสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนม ในอดีตหากตัวอ่อนขาดน้ำนมจากแม่ส่วนใหญ่แล้วยากที่จะมีชีวิตรอด สมัยนั้นจึงมีวิธีแก้ไขด้วยการหา “แม่นม” รับช่วยเลี้ยงดูให้น้ำนมแทนแม่ผู้ให้กำเนิด ซึ่งการปฏิบัติเช่นนี้กระทำทั้งในคนและสัตว์อื่น ปัจจุบันวิทยาการด้านอาหารสำหรับตัวอ่อนที่เกิดใหม่เพื่อทดแทนน้ำนมจากแม่มีการพัฒนาไปมากทีเดียว มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ว่า นมจากแม่วัวที่มีจำหน่ายในท้องตลาดในปัจจุบันใกล้เคียงกับนมที่มาจากแม่ของมนุษย์มากที่สุด และตัวของแม่ที่เป็นมนุษย์เองก็อาจมีภาระเรื่องการทำงานหาเลี้ยงชีพ สังคม หรือแม้บางคนก็ห่วงเรื่องทรวดทรง ด้วยเหตุนี้กระมัง คุณแม่สมัยใหม่จึงนิยมใช้ผลิตภัณฑ์ที่มาจากนมวัวให้ลูกแทนน้ำนมตนเองมากขึ้นใปจจุบัน

ข้อมูลของประเทศไทยเมื่อปี 2548 พบว่า ประเทศไทยมีวัวนม 536,720 ตัว สามารถผลิตน้ำนมได้ประมาณ 916,146 ตัน ต่อปี หรือปราณ 2,510 ตัน ต่อวัน และแม่โค 1 ตัว สามารถผลิตน้ำนมได้ประมาณ 11.38 กิโลกรัม ต่อวัน มีผู้ประมาณว่าแม่โคนมจะมีเลือดไหลผ่านเต้านมประมาณวันละ 90,000 กิโลกรัม และเลือดประมาณ 400-800 กิโลกรัมจึงจะสามารถสร้างน้ำนมได้เพียง 1 กิโลกรัมเท่านั้น และน้ำนมทั้งหมดจะถูกส่งเข้าโรงงานแปรรูปที่อยู่ประมาณ 81 โรง

การจะได้มาซึ่งนมจากวัวนั้นมิใช่ว่าวัวทุกตัวจะมีน้ำนมได้เอง วัวแม่พันธุ์เมื่ออายุประมาณ 15-18 เดือนจึงจะสามารถประผมพันธุ์ได้ เมื่อผสมพันธุ์ติดแล้วจะตั้งท้องประมาณ 265-300 วัน และเมื่อคลอดลูกแล้วจะให้น้ำนมลูกได้ประมาณ 300 วัน ดังนั้นการผู้เลี้ยงวัวนมเมื่อจะเอาน้ำนมจากวัว จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องขัดขวางมิให้ลูกวัวได้ดื่มนมของแม่วัวด้วยวิธีการแยกลูกวัวไปอยู่ในที่อื่นแล้วใช้นมผงละลายน้ำให้ลูกวัวดื่มแทน (กรณีนี้ เป็นกรณีที่ลูกวัวคลอดลูกวัวออกมาแล้วยังมีชีวิต) และถ้าลูกวัวที่คลอดออกมาเป็นตัวเมียเจ้าของก็จะเลี้ยงดูให้เป็นแม่พันธุ์ต่อ แต่ถ้าเป็นลูกวัวตัวผู้ก็จะมีพ่อค้ามารับซื้อแล้วนำไปแปรรูปเป็นไส้กรอกลูกวัวบ้าง ลูกชิ้นบ้าง หรือนำไปทำวัวย่าง(วัวหัน) ต้อนรับนักท่องเที่ยวแทน ส่วนกรณีถ้าลูกวัวตัวไหน ตัวโตเกินขนาดไม่สามารถคลอดออกมาตามปกติ ผู้เลี้ยงวัวนมจะให้เจ้าหน้าที่ ภิบาลสัตว์ ชำแระลูกวัวที่อยู่ในท้องแม่วัวแล้วจึงค่อยนำเอาชิ้นส่วนออกมาทีละชิ้น ๆ ลูกวัวตาย แม่วัวรอดและได้น้ำนม แต่ถึงลูกวัวคลอดออกมาจะรอดวันคลอด วันข้างหน้าก็ไม่รอดอยู่ดี เพราะสิ่งที่ผู้เลี้ยงวัวนมต้องการไม่ใช่ลูกวัว แต่เป็น "นมวัว"

จากกระบวนการผลิตนมจะเห็นว่าการเกิดของลูกวัวนมเป็นสิ่งที่เจ้าของวัวนมต้องการให้เกิด แต่มิได้ต้องการลูกวัวที่เกิดมา แต่ให้เกิดเพื่อต้องการน้ำนมจากแม่วัว กิจกรรมการพรากลูกจากแม่หรือพรากแม่ออกจากลูก จึงเกิดขึ้น มีใครสักคนไหมที่ชอบดื่มนมวัวจะคิดว่านี่เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง ทั้งที่คนทั่วโลกอ้างว่าตนเองเป็นคนมีศาสนา แม้จะเป็นคนละศาสนาก็ตาม ฝ่ายศาสนาที่ไม่มีพระเจ้าก็สั่งสอนให้ใช้เมตตาต่อกัน และถือว่าสัตว์ทุกชนิดเป็นเพื่อนร่วมสุขร่วมทุกข์ในโลกนี้ ศาสนาที่นับถือพระเจ้าพระองค์ได้มีพระเมตตาสร้างสรรพสัตว์ทุกสิ่งมาอยู่ร่วมกันด้วยความสุขไม่เบียดเบียนบนโลกใบนี้เช่นกัน การที่มนุษย์อ้างว่าพวกตนมีจิตใจที่สูงส่งกว่าสัตว์อื่น ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง แล้วมนษย์คิดจะยกเลิกวิธีการเบียดเบียนเพื่อนร่วมโลกด้วยวิธีการที่โหดร้ายเช่นนี้หรือไม่ หรือลำพังมนุษย์ด้วยกันพวกเรายังไม่เว้นกระทำต่อกัน ดังเห็นเป็นที่ประจักษ์แล้วกรณีที่วัดไผ่เงิน

อ้างอิง
1. การผลิตน้ำนมดิบ อิสระ สุวรรณบล
2. www.milkforthai.org/product/event.html