วันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2553
วันพุธที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2553
บางซ่อน
"บางซ่อน" ชื่อนี้หากเป็นคนกรุงเทพฯที่มีอายุ 50 ปี ขึ้นไปรับประกันได้ว่ารู้จักมักคุ้นดีส่วนที่อายุน้อยกว่านั้นก็ลำบากที่จะรู้ได้อย่างไรว่าบริเวณนี้เองอดีตคือชุมชนที่สำคัญแห่งหนึ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา "บางซ่อน"วันนี้จึงเลือนลางไปจากความทรงจำของคนรุ่นใหม่มากทั้งที่เป็นชุมชนที่สำคัญทางวรรณคดีและประวัติศาตสร์ในอดีต
ผู้ที่สนใจในผลงานของท่านกวีเอกของโลกต้องเคยได้ยินว่า "นิราศพระบาท" เป็นนิราศที่ท่านได้แต่งขึ้นเมื่อครั้งท่านสุนทรภู่ออกเดินทางจากวัดระฆังโฆสิตารามเพื่อไปนมัสการรอยพระพุทธบาท(ปัจจุบันอยู่ที่อำเภอพุทธบาท จังหวัดสระบุรี)ตามความศรัทธาของชาวพุทธทุกคน โดยเสด็จพระองศ์เจ้าปฐมวงศ์ พ.ศ.2350 ทางน้ำได้นั่งเรือผ่านสถานที่ตั้งต่างๆ(มีผู้สนใจท่านได้วิเคราะห์สถานที่ที่ท่านผ่านไว้ 46 แห่งคือ คลองขวาง บางจาก สามเสน บางพลัด บางซื่อ บางซ่อน วัดโบสถ์(ตลาดแก้ว) ตลาดขวัญ ปากเกร็ด บางพูด บางพัง วัดเทียนถวาย บางหลวง สามโคก วัดตำหนัก ทุ่งขวาง ราชคาม เกาะใหญ่ บางไทร ลีกุก เกาะเกิด บางปะอิน เกาะพระ เกาะเรียน ท่าเรือ คลองตะเคียน วัดธารมา คลองปทุม วัดแม่นาง-ปลื้ม คลองหัวรอ บ่อโพง บางระกำ บ้านคุ้ง แม่ลา อรัญญิก บ้านขวาง ท่าเรือ บางโขมด ตำบลบ่อโศก หนองคณฑี สระยอ วัดพระพุทธบาท เขาโพธิ์ลังกา ถ้ำประทุนคีรี ถำกินนรี บ่อพรานล้างเนื้อ ถ้ำชาละวัน) มาถึงบางซื่อและต่อมาก็เป็น "บางซ่อน" ซึ่งท่านพรรณาไว้ว่าเป็นบางที่มีพื้นที่กว้างขวางมากสงสัยว่าจะซ่อนคนที่ท่านรักไว้ว่า
ถึงบางซื่อชื่อบางนี้สุจริต
เหมือนชื่อจิตที่พี่ตรงจำนงสมร
มิตรจิตขอให้มิตรใจจร
ใจสมรขอให้ซื่อเหมือนชื่อบาง
ถึงบางซ่อนเหมือนเขาซ่อนสมรพี่
ซ่อนไว้นี่ดอกกระมังเห็นกว้างขวาง
เจ้าเยี่ยมหน้าออกมาหาพี่หน่อยนาง
จะลาร้างแรมไกลเจ้าไปแล้วฯ
สิ่งก่อสร้างที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่"บางซ่อน"
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดำริห์ว่า ทางรถไฟหลวงในสองฟากแม่น้ำเจ้าพระยา มีขนาดกว้างของทางผิดกัน ทั้งรูปส่วนของรถจักรและล้อเลื่อนที่มีใช้อยู่ก็ไม่เหมือนกัน เป็นเหตุทำให้ต้องสะสมเครื่องอะไหล่สำรองไว้หลายสิ่งหลายอย่างมากนัก เป็นการสิ้นเปลืองเงินแผ่นดินปีละหลายล้านบาท จึงเพื่อดำเนินพระราโชบายให้สำเร็จ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมรถไฟจัดการแก้ไขทางรถไฟหลวงฟากตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นทางขนาด ๑.๔๓๕ เมตร เปลี่ยนเป็นทางขนาด ๑.๐๐ เมตร เช่นเดียวกับทางรถไฟฟากตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาทั่วราชอาณาเขตต์ และจัดการเชื่อมทางรถไฟหลวงทั้ง ๒ ฟากให้ติดต่อกันโดยวิธีสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อให้ขบวนรถไฟและยวดยานพาหนะอื่นๆ ได้สัญจรติดต่อถึงกันได้สะดวก เป็นประโยชน์แก่อาณาประชาราษฎร ที่จะเดินทางไปมาและบรรทุกส่งสินค้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นทางเชื่อมการคมนาคมกับประเทศใกล้เคียงให้ได้รับความสะดวกดียิ่งขึ้นอีกด้วย อาทิ เช่น จากสิงคโปร์ไปยังจังหวัดเชียงใหม่ สุดทางสายเหนือของราชอาณาจักรไทย ผู้โดยสารอาจเดินทางไปถึงได้ตลอดโดยมิต้องทำการถ่ายขบวนรถเลย เป็นต้น
- จากพระราชดำรินี้จึงได้มีการก่อสร้างสร้างสะพานได้ตกลงแน่นอนแล้วว่า จะใช้ตำบลบางซ่อน ทางฟากตะวันออก ณ บริเวณวัดสร้อยทอง ในเขตต์จังหวัดพระนคร ตัดข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาตรงไปยังฟากตะวันตก ณ บริเวณเหนือวัดละมุด(วัดวิมุตยารามปัจจุบัน) ในเขตจังหวัดธนบุรี แม่น้ำเจ้าพระยาตอนนี้กว้างประมาณ ๓๐๐ เมตร
-สะพานที่สร้างนี้ เป็นสะพานเหล็กชนิดคานลอย มีสัณฐานคล้ายรูปสมอแบ่งเป็น ๕ ช่อง ๆ กลางของสะพานยาว ๑๒๐ เมตร มีคานลอยทอดไป ๒ ข้างๆ ละ ๔๑.๕๐ เมตร มีโครงเหล็กยาว ๓๗ เมตร วางประสานในตอนกลาง ช่องใกล้ช่องช่องกลางทั้งสองด้านยาว ๘๔ เมตร และช่องสุดท้ายทั้งสองด้านยาว ๗๗.๐๔ เมตร แต่ละด้านมีคานลอยทอดไปข้างละ ๔๑.๕๐ เมตร และประกอบด้วยโครงเหล็กยาว ๓๕.๕๐ เมตรวางประสานไว้ รวมความยาวของสะพานคำนวณได้ ๔๔๒.๐๘ เมตร แบ่งเตรียมไว้ส่วนหนึ่งโดยเฉพาะสำหรับทางหลวงกว้าง ๕ เมตร เพื่อให้ยวดยานทุกชนิดผ่านได้ อีกส่วนหนึ่งเป็นทางรถไฟ นอกจากนี้ยังมีทางเท้าไว้สองข้างสะพาน แต่ละข้างกว้าง ๑.๕๐ เมตร
- วันที่ ๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๔๖๙ เวลาบ่าย พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ( รัชชกาลที่ ๗ ) ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกอบพระราชพิธีเปิดใช้สะพานพระราม ๖
- พระราชดำรัสในการเปิดสะพานพระราม ๖ ความตอนหนึ่งว่า ...การสร้างสะพานพระราม ๖ นี้ ควรนับได้ว่าเปนการงานใหญ่อย่าง ๑ ที่มีเปนครั้งแรกในเมืองไทย และไม่เฉพาะแต่เชื่อมทางรถไฟเท่านั้น ยังได้มีทางสำหรับคนเดิน และสำหรับยวดยานพาหนะอย่างอื่นสัญจรไปมาเตรียมไว้ด้วย ต่อไปเมื่อสร้างถนนหนทางขึ้นแล้ว ยานพาหนะอื่นๆ ก็จะเดินติดต่อถึงกันได้สะดวกทั้งสองฟากลำน้ำระหว่างพระนครกับธนบุรี เมื่อได้รฤกถึงพระราโชบายอันเปนประโยชน์ต่ออาณาประชาราษฎร์ดังนี้แล้ว กระทำให้เปนที่เพิ่มพูนพระบารมีแด่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ ผู้ทรงโปรดให้เริ่มริการสร้างสะพานนี้เปนอเนกประการ สะพานพระราม ๖ นี้ต้องนับว่าเปนสิ่ง ๑ ในงานอันสำคัญที่สุดแห่งรัชชกาลของพระองค์ จึงสมควรเปนพระราชอนุสสาวรีย์ที่รฤกถึงพระองค์ได้โดยแท้...
"บางซ่อน" จากข้อมูลอื่นๆ
- ข้อมูลจาก http://www.watmatchan.net/index.php/joomla-license บันทึกไว้ว่า...โรงเรียนนี้ เดิมเป็นโรงเรียนประชาบาล ที่ตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติประถมศึกษา เปิดเรียนเมื่อวันที่ ๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๗๕ รองอำมาตย์ตรีสงัด ศรีเพ็ญ นายอำเภอบางซื่อได้ทำพิธีเปิด มีครู ๒คน คือ นายปลั่ง ปั้นลายนาค ครูใหญ่ และนายสำราญ มหากายนันท์ เป็นครูน้อย มีนักเรียนชาย ๓๑ คน หญิง๔๓ คน รวม ๗๔ คน ใช้ศาลาวัดเป็นที่เรียน ในระยะเริ่มแรกตำบลนี้เเรียกว่า ตำบลบางซ่อน อยู่ในห้องที่อำเภอ บางซื่อ จังหวัดพระนคร ต่อมาทางราชการ ได้ยุบอำเภอบางซื่อ ไปรวมกับอำเภอดุสิต และบางเขน ตำบลบางซ่อน ยุบรวมเป็นตำบลบางซื่อ โรงเรียนซึ่งมีชื่อเดิมว่า “โรงเรียนประชาบาล ตำบลบางซ่อน ๒” จึงเปลี่ยนชื่อเป็น“โรงเรียนประชาบาล ตำบลบางซื่อ ๑ วัดมัชฌันติการาม” ในปี พุทธศักราช ๒๔๙๗...
- ข้อมูลจาก http://www.watsoithong.com เล่าประวัติของวัดสร้อยทองว่าเดิมชื่อ วัดซ่อนทอง อาณาเขตทิศใต้ติดกับ คลองบางซ่อน
- ข้อมูลจาก http://www.sb.ac.th/linkthai/taewprabad1/sec01p06.html บางซ่อน เป็นตำบลหรือแขวงที่อยู่ตอนเหนือของเขตบางซื่อ มีลักษณะเป็นที่ราบลุ่ม มีคลองจำนวนมากเพื่อใช้ในการคมนาคม เดิมบางซ่อนเป็นบ้านสวนต่อเนื่องกับจังหวัดนนทบุรี ซึ่งมีคลองบางเขน (เก่า) ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเป็นแนวกั้นเขต ตรงบริเวณใกล้กับวัดปากน้ำนนทบุรีมีปากคลองบางเขนที่ไหลลงสู่เจ้าพระยาอีกแห่งหนึ่ง คือ สายที่ไหลผ่าน สถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าพระนครเหนือ เรียกว่าคลองบางเขนใหม่ ชาวบ้านเรียกว่า“ คลองขุดใหม่ ” บางซื่อ และ บางซ่อนตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นเขตติดต่อกับจังหวัดนนทบุรี มีคลองบางเขน (เก่า) เป็นเส้นแบ่งเขตกรุงเทพฯ กับจังหวัดนนทบุรี
- ข้อมูลจาก http://www.websuntaraporn.com/suntaraporn/lyric/postlyric.asp?GID=1296 บ้านคนรักสุนทราภรณ์ กล่าวในเกร็ดเพลง"บางซ่อน" เนื้อเพลงโดยธาตรี ทำนองและขับร้องโดยครูเอื้อ สุนทรสนาน ให้เป็นเพลงที่กล่าวถึงเทคนิคไทย-เยอรมัน ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
เนื้อเพลงบางซ่อน
บางซ่อนบางนี้ไซร้
มิได้ซ่อนบางพราง
เพราะนามบาง
ยินทุกทางทั่วไป
เทคนิคไทยเยอรมัน
นี่นั่นบันลือไกล
เร้นปานใด
ไยเหมือนนามบางซ่อน
อาศัยถิ่นนี้มีวิชา
อันสมค่าขจร
มาขอวอน
บางซ่อนมีวิชา
บางซ่อนบางสอนวิทย์
สมจิตดังปองมา
สมวิญญาณ์
มีวิชาทางช่าง
บางซ่อนบางนี้ไซร้
มิได้ซ่อนบางพราง
เพราะนามบาง
ยินทุกทางทั่วไป
บางซ่อนบางนี้นั้น
ล้วนมั่นความภูมิใจ
วิชาใด
เรารับไปเสริมสร้าง
เรานี้นี่หรือ
มีฝีมือนามสมชื่อตามบาง
เราสมบาง
สมช่างไทยเยอรมัน
บางซ่อนบางสอนรัก
รักปักทรวงนิรันดร์
ทุกชีวัน
รวมสัมพันธ์บางซ่อน
ทั้งหมดที่กล่าวถึง"บางซ่อน"ทำให้เราเกิดความสุขและคิดถึงบางซ่อนขึ้นมาในใจทั้งที่ทางกายภาพเรากำลังอยู่บนพื้นที่"บางซ่อน" ไปตามหาบางซ่อนกันเถอะ...
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)